ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิธีการจัดเก็บ และแบ่งปันข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคย ธุรกิจต่างๆ ต้องพึ่งพาวิศวกรรมระบบอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นี่คือที่มาของแนวคิดคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีจากภายนอกองค์กรได้ ทั้งเซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และอื่นๆ

จากรายงานล่าสุดพบว่า ตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตจาก 445.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 เป็น 947.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 นอกจากนี้ สถิติล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบคลาวด์กำลังแพร่หลาย และครองตลาดเกือบทุกที่

  • ภายในปี 2568 คาดว่าจะมีการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า 100 เซตตะไบต์บนคลาวด์ และการจัดเก็บข้อมูลทั่วโลกจะเกิน 200 เซตตะไบต์
  • ศูนย์ข้อมูลคลาวด์ประมวลผลข้อมูลมากถึง 94% ของภาระงานทั้งหมดในปี 2564
  • ศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Citadel มีพื้นที่ 1.3 ล้านตารางฟุต ประกอบด้วยอาคารศูนย์ข้อมูล 8 แห่ง และจะมีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 7.2 ล้านตารางฟุต เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์

แม้คลาวด์คอมพิวติ้งจะเป็นเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้น แต่ธุรกิจแต่ละแห่งมีความต้องการเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์จึงถูกแบ่งออกเป็นสถาปัตยกรรมคลาวด์แบบส่วนตัว (Private Cloud) แบบสาธารณะ (Public Cloud) และแบบไฮบริด (Hybrid Cloud)

ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบสาธารณะ และแบบส่วนตัวเป็นที่นิยมมากกว่า ไฮบริดคลาวด์กลับเป็นตัวเลือกใหม่ล่าสุดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยในปี 2563 ตลาดไฮบริดคลาวด์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 145 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 ซึ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มเติบโตสูงสุด ในขณะที่อเมริกาเหนือครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด

ในบทความนี้ เราจะมาดูความหมายของไฮบริดคลาวด์ ข้อดี และเหตุผลที่ทำให้ไฮบริดคลาวด์เป็นอนาคตของคลาวด์คอมพิวติ้ง

Hybrid Cloud คืออะไร?

ไฮบริดคลาวด์เป็นการผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะและคลาวด์ส่วนตัวเข้าด้วยกัน

ส่งผลให้เกิดรูปแบบการประมวลผลที่เป็นหนึ่งเดียว และมีความยืดหยุ่น การรวมทรัพยากรจากคลาวด์ส่วนตัว และสาธารณะช่วยให้บริษัทสามารถเลือกสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละงานได้ อีกทั้งยังสามารถสลับไปมาระหว่างบริการต่างๆ ได้ตามต้องการ

ไฮบริดคลาวด์มีองค์ประกอบหลายอย่างที่พบได้ในโครงสร้างพื้นฐานทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว พร้อมกับคุณสมบัติพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเครือข่ายมักเลือกที่จะเก็บศูนย์ข้อมูลไว้ในองค์กร และใช้คลาวด์เพื่อจัดเก็บข้อมูล และทรัพยากรที่มีความสำคัญน้อยกว่า แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์จึงเป็นโซลูชันที่ไร้รอยต่อ ยืดหยุ่น และควบคุมได้

ยกตัวอย่างการใช้งานคลาวด์หลายรูปแบบที่ช่วยให้สามารถย้ายข้อมูลที่เป็นความลับจากสภาพแวดล้อมส่วนตัวไปยังอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งทำงานบนคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย ไม่เพียงเท่านั้น องค์กรยังมีอิสระในการตัดสินใจว่าจะเก็บข้อมูลและทรัพยากรไว้ที่ใด และต้องการระดับความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

ด้วยความสามารถในการปรับขนาด ความปลอดภัย และการย้ายข้อมูลที่ราบรื่น ส่งผลให้บริการไฮบริดคลาวด์กลายเป็นโซลูชันที่ได้รับความนิยมสำหรับบริษัทที่ต้องการการจัดการที่ง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน และมีประสิทธิภาพสูง

Hybrid Cloud ทำงานอย่างไร?

ในช่วงแรก กลไกการประมวลผลของไฮบริดคลาวด์มุ่งเน้นไปที่การใช้โซลูชันอย่าง Red Hat OpenStack หรือมิดเดิลแวร์ระดับองค์กรเพื่อผสานรวมทรัพยากร และเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลในองค์กรกับผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะโดยตรง ส่วนปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนย้ายภาระงานอย่างสม่ำเสมอ

ในช่วงแรก กลไกการประมวลผลของไฮบริดคลาวด์มุ่งเน้นไปที่การใช้โซลูชันอย่างการเชื่อมต่อมิดเดิลแวร์ระดับองค์กร และเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลในองค์กรกับผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะโดยตรง เพื่อผสานรวมทรัพยากร ส่วนปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนย้ายภาระงานอย่างสม่ำเสมอระหว่างสภาพแวดล้อมคลาวด์หลายรูปแบบแทน โดยรวมทั้งศูนย์ข้อมูลในองค์กร คลาวด์ส่วนตัว และบริการคลาวด์สาธารณะจากบุคคลที่สาม สิ่งนี้สำเร็จได้โดยการนำเทคโนโลยี Cloud-Native มาใช้ พัฒนาแอปพลิเคชันด้วย Microservices ที่ใช้งานในคอนเทนเนอร์ และใช้การจำลองโครงสร้างพื้นฐาน

ระหว่างสภาพแวดล้อมคลาวด์หลายรูปแบบแทน โดยรวมทั้งศูนย์ข้อมูลในองค์กร คลาวด์ส่วนตัว และบริการคลาวด์สาธารณะจากบุคคลที่สาม สิ่งนี้สำเร็จได้โดยการนำเทคโนโลยี Cloud-Native มาใช้ พัฒนาแอปพลิเคชันด้วย Microservices ที่ใช้งานในคอนเทนเนอร์ และใช้การจำลองโครงสร้างพื้นฐาน

สถาปัตยกรรมไฮบริดคลาวด์ในปัจจุบันทำงานโดยการผสานรวมองค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานที่หลากหลาย เช่น Virtual Private Network (VPN), Wide Area Network (WAN) และ Application Program Interfaces (APIs) เพื่อรวมทรัพยากร และบริการจากสภาพแวดล้อมการประมวลผลหลายแบบเข้าด้วยกัน

สำหรับไฮบริดคลาวด์ การจำลองเสมือน (Virtualization) การใช้คอนเทนเนอร์ (Containerization) และเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Networking) ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำงานร่วมกัน เพื่อจัดสรรทรัพยากรการประมวลผล และยกระดับการจัดเก็บ ประมวลผล และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างระหว่างคลาวด์สาธารณะกับคลาวด์ส่วนตัว

คลาวด์สาธารณะ และคลาวด์ส่วนตัวเป็นคลาวด์คอมพิวติ้งที่แตกต่างกัน ซึ่งมีข้อดีและข้อควรพิจารณาเฉพาะตัว ดังนี้

คลาวด์สาธารณะ: เปรียบเสมือนการเช่าอพาร์ตเมนต์บนคลาวด์ที่คุ้มค่า สามารถปรับขนาดได้ และน่าเชื่อถือ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากร และโครงสร้างพื้นฐานที่ผู้ให้บริการคลาวด์จัดเตรียมไว้ โดยไม่ต้องดูแลรักษาเอง

คลาวด์ส่วนตัว: เปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์บนคลาวด์ ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่ปรับแต่งได้ มีความปลอดภัยสูง และควบคุมได้มากกว่า โดยช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่งสภาพแวดล้อมคลาวด์ของตนเอง รับประกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และตอบสนองความต้องการเฉพาะได้ โดยมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การถกเถียงระหว่างคลาวด์สาธารณะกับคลาวด์ส่วนตัวอาจไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากทั้งสองตัวเลือกมีข้อดีของตัวเอง นี่เป็นจุดที่ไฮบริดคลาวด์เข้ามามีบทบาท โดยนำเสนอข้อดีของคลาวด์ทั้งสองแบบ

ในปี 2563 พบว่า 82% ของบริษัทระดับโลกเริ่มนำกลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์มาใช้ และตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์รวมสภาพแวดล้อมคลาวด์สาธารณะ และคลาวด์ส่วนตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งนำเสนอความยืดหยุ่น ความสามารถในการควบคุมข้อมูลและความปลอดภัย การจัดการต้นทุนอย่างแม่นยำ และความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรตามความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลายให้แก่องค์กร กล่าวง่ายๆ คือ เหมือนกับการเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์บนคลาวด์ที่สามารถปล่อยเช่าพื้นที่บางส่วนได้ด้วย การผสมผสานบริการคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว และโครงสร้างพื้นฐานในองค์กร ส่งผลให้ไฮบริดคลาวด์สามารถจัดการ ควบคุม และเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชันระหว่างสภาพแวดล้อมทั้งสามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้งาน Hybrid Cloud ที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?

ด้วยวิธีการทำงานของไฮบริดคลาวด์ แนวทางนี้จึงนำเสนอการผสมผสานระหว่างโซลูชันในองค์กรและคลาวด์ เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย โดยกรณีการใช้งานที่โดดเด่นมีดังนี้

1. การขยายศูนย์ข้อมูล

ไฮบริดคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจสามารถรันหลายแอปพลิเคชัน และจัดการกับภาระงานตามความต้องการจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับบริษัทที่มีภาระงานไม่แน่นอนหรือความต้องการทรัพยากรที่ยืดหยุ่น โซลูชันนี้ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ทรัพยากรจากคลาวด์สาธารณะในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง โดยยังคงดำเนินการหลักบนคลาวด์ส่วนตัว โครงสร้างพื้นฐานของไฮบริดคลาวด์สามารถปรับขนาดขึ้นหรือลงได้ตามต้องการ ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์จำนวนมาก

2. กลยุทธ์การกู้คืนจากภัยพิบัติ

ธุรกิจสามารถรับประกันความพร้อมใช้งานสูง และสร้างกลยุทธ์การกู้คืนจากภัยพิบัติที่แข็งแกร่งด้วยโซลูชันไฮบริดคลาวด์ โดยใช้ทรัพยากรจากคลาวด์สาธารณะสำหรับการสำรองและกู้คืนข้อมูล ในขณะที่เก็บงานสำคัญไว้บนคลาวด์ส่วนตัว วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ลดเวลาหยุดทำงาน และรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจได้อย่างราบรื่นแม้ในยามที่ถูกรบกวน

3. การพัฒนาและทดสอบที่มีประสิทธิภาพ

ไฮบริดคลาวด์ช่วยให้กระบวนการพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้การเข้าถึงทรัพยากรคลาวด์สาธารณะที่ปรับขนาดได้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพ ในขณะที่รักษาความต่อเนื่องในการทำงานของระบบหลัก และปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ส่วนตัว วิธีนี้ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มความสะดวก และรับประกันสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและควบคุมได้

4. การปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับ

การจัดการความซับซ้อนของการปฏิบัติตามกฎระเบียบสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยไฮบริดคลาวด์ ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งมักอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในคลาวด์ส่วนตัว นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นของไฮบริดคลาวด์ยังช่วยให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในภูมิภาคที่อาจไม่มีสำนักงานตั้งอยู่ โดยยังคงปฏิบัติตามข้อบังคับท้องถิ่นได้

5. โซลูชันเดสก์ท็อปทางไกล

ไฮบริดคลาวด์แสดงให้เห็นถึงประโยชน์อย่างมากในด้านโซลูชันเดสก์ท็อปทางไกล ธุรกิจสามารถให้พนักงานเข้าถึงเดสก์ท็อป และแอปพลิเคชันจากทุกที่ในโลกได้อย่างปลอดภัย ผ่านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลของไฮบริดคลาวด์ ความสามารถนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอทีอีกด้วย

ประโยชน์ของ Hybrid Cloud

ไฮบริดคลาวด์เป็นโซลูชันชั้นนำแห่งอนาคต โดยมีประโยชน์ และอิทธิพลต่อภาพรวมของคลาวด์คอมพิวติ้ง ดังนี้

1. การเข้าถึงที่ยอดเยี่ยมและการกู้คืนจากภัยพิบัติ

แต่เดิม การกู้คืนจากภัยพิบัติ และการสำรองข้อมูลมีต้นทุนมหาศาลสำหรับองค์กร ส่งผลให้ธุรกิจต้องจัดเก็บข้อมูลไว้ที่ศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรแทน ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงาน และใช้พื้นที่มาก แต่ในปัจจุบัน ทรัพยากรที่สำคัญน้อยกว่าถูกเก็บไว้บนคลาวด์สาธารณะ ในขณะที่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนกว่าถูกจัดสรรไปยังพื้นที่คลาวด์ส่วนตัวที่ปลอดภัย พร้อมนำเสนอโมเดลจ่ายเฉพาะเท่าที่ใช้ และสามารถกู้คืนทรัพยากรได้อย่างง่ายดายหลังจากเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่หรือภัยธรรมชาติ เพราะสามารถสำรองข้อมูล และกู้คืนจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล ในขณะที่ความพร้อมใช้งานยังคงสูง

2. เสริมสร้างความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ความปลอดภัย และการปกป้องข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ โซลูชันไฮบริดคลาวด์ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยบนคลาวด์ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ดีที่สุด การใช้มาตรการความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอในทุกสภาพแวดล้อมช่วยปรับปรุงการปกป้องข้อมูลโดยรวม และการปฏิบัติตามข้อบังคับ

3. ปรับปรุงการทำงานประจำวันให้มีประสิทธิภาพ

ความต้องการของลูกค้า และธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน โดยธุรกิจต้องมีความคล่องตัว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แนวทางไฮบริดคลาวด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดหรือแม้แต่ชะลอการดำเนินงาน ด้วยผู้ให้บริการคลาวด์ที่เหมาะสม การย้ายข้อมูลระหว่างสภาพแวดล้อม และเครื่องเสมือนหรือคอนเทนเนอร์ที่ทำได้ด้วยการกดปุ่มเดียว ส่งผลให้ทีมไอทีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับผู้ใช้

4. การแบ่งปันข้อมูลที่ง่ายโดยไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัว

ความปลอดภัยของเครือข่ายควรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจหลังจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัว

คลาวด์แบบหลายผู้เช่าแยกแอปพลิเคชันและทรัพยากร และสามารถแยกออกจากกันได้มากขึ้นด้วย VLAN และการเข้ารหัส ซึ่งเหมาะกับโรงพยาบาลที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลผู้ป่วยอย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว โซลูชันไฮบริดคลาวด์ที่ก้าวหน้า และปลอดภัยยิ่งขึ้นไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานประจำวัน แต่ยังให้การปกป้องที่ดีขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ในภาคการแพทย์

5. การควบคุมและจัดการการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ดีขึ้น

ผู้ใช้สร้างข้อมูลกว่า 2.5 ควินทิลเลียนไบต์ต่อวัน ในขณะที่คุณภาพข้อมูลที่ไม่ดีทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสีย 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีการควบคุมข้อมูลจึงสำคัญต่อองค์กร และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บที่รวดเร็วและง่ายดาย สภาพแวดล้อมคลาวด์ทำงานได้ดีกับ Big Data เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับขนาดได้ และมีพลังการประมวลผลเท่ากับโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

6. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประสิทธิภาพ

การเติบโตของธุรกิจไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูงหรือระยะเวลานาน การใช้โซลูชันไฮบริดคลาวด์ช่วยให้ทีมปฏิบัติการไอทีควบคุมทรัพยากรได้อย่างละเอียด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้บริการคลาวด์ ทั้งคลาวด์สาธารณะ และคลาวด์ส่วนตัวที่หลากหลาย โดยใช้เวลาน้อยลง

การควบคุมระดับสูงนี้ช่วยเพิ่มความคิดริเริ่มในการปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัย พร้อมช่วยให้องค์กรสามารถผสานบริการคลาวด์เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานหรือข้อมูลในองค์กรได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้การส่งมอบคุณค่าดีขึ้น

7. ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

ในปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการ และคาดหวังบริการที่รวดเร็วในสภาพแวดล้อมดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นี่เป็นเหตุผลที่ธุรกิจต่างๆ ต้องสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และติดตามประสบการณ์ของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีขึ้น

ไฮบริดคลาวด์ช่วยให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลทั้งหมดนั้นปลอดภัย แต่ยังคงพร้อมใช้งานสำหรับพนักงานทุกคนที่ต้องการปรับปรุงบริการ และประสบการณ์ของลูกค้า

8. เพิ่มประสิทธิภาพของทีมพัฒนา

การใช้โซลูชันไฮบริดคลาวด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ โดยอำนวยความสะดวกในปรับใช้แนวคิด Agile และ DevOps มาใช้อย่างแพร่หลาย ด้วยวิธีนี้ ทีมพัฒนาสามารถเขียนโค้ดครั้งเดียว และปรับใช้ได้อย่างง่ายดายในสภาพแวดล้อมคลาวด์หลายแบบ

9. ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ

สภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์สามารถผลักดันธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ประโยชน์จากโมเดลไฮบริดคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการบูรณาการ และการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรหรือบริการของบุคคลที่สาม พร้อมช่วยให้สามารถพัฒนาธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

10. รองรับอนาคตของธุรกิจคุณ

คลาวด์คอมพิวติ้งถือเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมอย่าง Tesla กำลังพึ่งพาคลาวด์มากขึ้นทุกวัน และธุรกิจอื่นๆ จะตามรอยในไม่ช้า สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ คือ สภาพแวดล้อมคลาวด์ และโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคตของ IoT โดยระบบไอทีจำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกับธุรกิจ ซึ่งความยืดหยุ่นของไฮบริดคลาวด์ช่วยรับประกันสิ่งนี้ได้

11. มอบความยั่งยืน

คลาวด์คอมพิวติ้งช่วยสร้างความยั่งยืน ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับธุรกิจและองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการใช้กลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์ การผสมผสานคลาวด์สาธารณะกับคลาวด์ส่วนตัวช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงทรัพยากรคลาวด์สาธารณะ ในขณะที่ยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ในองค์กร ส่งผลให้เกิดข้อได้เปรียบหลายประการและส่งเสริมความยั่งยืน อาทิ

  • ลดการใช้ฮาร์ดแวร์/โครงสร้างพื้นฐาน: โซลูชันคลาวด์ช่วยลดการใช้ฮาร์ดแวร์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และการปล่อยคาร์บอนฯ จากการผลิต
  • ลดการใช้ไฟฟ้า: คลาวด์คอมพิวติ้งช่วยลดการใช้ไฟฟ้าสำหรับการทำความเย็น การปรับแต่งพลังงาน และแสงสว่างอย่างมีนัยสำคัญ มอบข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพพลังงาน และการประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับโครงสร้างพื้นฐานในองค์กร
  • ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์: การนำคลาวด์มาใช้ส่งผลให้มีเซิร์ฟเวอร์น้อยลง ใช้พลังงานน้อยลง และลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ถึง 88% เสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเทคโนโลยีแบบเก่า

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลแบบคลาวด์และกรอบการทำงาน ESG ได้ที่นี่การเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่มุ่งมั่นด้านความยั่งยืน คือ ก้าวแรกสู่กลยุทธ์คลาวด์ที่ยั่งยืน คาดการณ์ว่าผู้ซื้อด้านไอทีจะพิจารณาข้อมูลการปล่อยคาร์บอนฯ เมื่อเลือกบริการคลาวด์ขนาดใหญ่ในอนาคต

5 หลักการ รับประกันความปลอดภัย และความยืดหยุ่นของไฮบริดคลาวด์

หลักการสำคัญที่ควรปฏิบัติตามเพื่อให้มั่นใจว่า สภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ของธุรกิจมีความปลอดภัยและยืดหยุ่น ได้แก่

  • มุ่งเน้นความยืดหยุ่น: ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการปรับใช้แอปพลิเคชัน เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละแอปพลิเคชันมีทรัพยากรที่จำเป็น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การพัฒนาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย: มุ่งเน้นการย้ายแอปพลิเคชันระหว่างสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องซื้อพื้นที่เพิ่มหรือใช้โซลูชันใหม่
  • แสวงหาความเรียบง่าย: หลีกเลี่ยงความซับซ้อนและทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้นโดยใช้โมเดลการทำงานแบบรวมศูนย์ที่มีโครงสร้างที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของเครือข่าย
  • ใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่: เติมเต็มช่องว่างความรู้ และลดการเรียนรู้ที่ยากลำบากโดยจัดเตรียมฟีเจอร์ความปลอดภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ทุกคน
  • ทำงานอัตโนมัติ: ปรับขนาดโดยอัตโนมัติเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และผู้ดูแลระบบเครือข่าย

การเลือกผู้ให้บริการโซลูชัน Hybrid Cloud ที่เหมาะสม

ด้วยความยืดหยุ่นและการผสานรวมอย่างราบรื่นระหว่างทรัพยากรคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว ไฮบริดคลาวด์ได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับหลายองค์กร อย่างไรก็ตาม เมื่อเลือกผู้ให้บริการโซลูชันไฮบริดคลาวด์ สิ่งสำคัญ คือ ต้องพิจารณาคุณสมบัติ และข้อได้เปรียบที่พวกเขานำเสนอก่อน องค์กรควรประเมินโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที โมเดลธุรกิจ และการดำเนินงานของตนเอง โดยคำนึงถึงประเด็นสำคัญต่อไปนี้

  • การแยกภาระงานที่สำคัญ
  • การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
  • การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่จัดการได้
  • ความสามารถในการประมวลผลชั่วคราว
  • การรองรับอนาคต
  • ข้อดีของทั้งสองโลก

โดยมีผู้ให้บริการโซลูชันไฮบริดคลาวด์ระดับพรีเมียม 5 ราย ที่ธุรกิจหรือองค์กรควรพิจารณาเมื่อต้องการข้อได้เปรียบ และคุณสมบัติข้างต้น ได้แก่

  • Sangfor Cloud Platform: แพลตฟอร์มครบวงจรที่ให้บริการโซลูชันคลาวด์สำหรับองค์กร/ไฮบริดคลาวด์ รวมถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น SaaS และการตรวจสอบแบบครอบคลุม Sangfor เน้นการปรับปรุงและทำให้กระบวนการ และการจัดการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ง่ายขึ้น
  • IBM: มีชื่อเสียงจากการซื้อกิจการ Red Hat เชิงกลยุทธ์ IBM เน้นการโยกย้าย การบูรณาการ และบริการจัดการคลาวด์แบบครบวงจร
  • Microsoft Azure Stack: เป็นผู้เล่นที่มั่นคงในอุตสาหกรรม Azure Stack นำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลายตั้งแต่การปรับขนาด VM ไปจนถึงการประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ และเน้นการผสานรวมทรัพย์สินในองค์กรกับนวัตกรรมคลาวด์
  • AWS Outposts: แนะนำเป็นบริการที่จัดการเต็มรูปแบบ AWS Outposts ออกแบบมาสำหรับแอปพลิเคชันที่ไวต่อความหน่วง และภูมิใจในความง่ายในการกำหนดค่า และการบูรณาการกับ AWS แบบดั้งเดิม
  • Google Cloud Anthos: สนับสนุนโมเดลแบบไฮบริดบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย Google Cloud Anthos เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของโซลูชันโอเพนซอร์ส โดยเฉพาะ Kubernetes

โซลูชันคลาวด์แบบผสมผสานของ Sangfor

แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ของ Sangfor สร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานแบบ Hyper-Converged(HCI) ที่รวมการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล การจำลองเสมือน และความปลอดภัยเข้าด้วยกัน สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปรับใช้งานที่ง่าย การจัดการที่สะดวก และความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดผู้ใช้งานไฮบริดคลาวด์

รับชมวิดีโอเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมไฮบริดคลาวด์ของ Sangfor และเหตุผลที่ไฮบริดคลาวด์เป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเปลี่ยนถ่ายสู่ดิจิทัลของธุรกิจคุณ

ถึงเวลาก้าวสู่อนาคตด้วยไฮบริดคลาวด์ - สุดยอดโซลูชันที่รวมความยืดหยุ่น ความเร็ว พลัง และความปลอดภัยเข้าด้วยกันไฮบริดคลาวด์ของ Sangfor เป็นโซลูชันคลาวด์แบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบรวมศูนย์รุ่นถัดไป (NG-CDI) และช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบการแบ่งส่วนแอปพลิเคชันหรือการวางภาระงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าการใช้งานคลาวด์

นอกจากนี้ การจัดการการกู้คืนจากภัยพิบัติ (DRM) ของ Sangfor ยังนำเสนอโซลูชันการกู้คืนจากภัยพิบัติที่ครอบคลุมระหว่าง Sangfor HCI และ MCS ซึ่งรวมถึงโซลูชันการกู้คืนจากภัยพิบัติแบบ Active-Passive และโซลูชันคลัสเตอร์แบบยืดหยุ่น Active-Active เพื่อปกป้องความต่อเนื่องทางธุรกิจตามความต้องการ

ท้ายที่สุด แพลตฟอร์มคลาวด์ Sangforเป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลคลาวด์อัตโนมัติที่เชื่อถือได้และไร้รอยต่อ ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้าง และจัดการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ผ่านการทำงานแบบมาตรฐาน และเน้นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมของคุณใช้เกี่ยวกับไฮบริดคลาวด์ และผู้ขายโซลูชันแบบHyper-Convergedลองตรวจสอบกับบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่างGartnerธุรกิจที่น่าสนใจและก้าวล้ำที่สุดกำลังใช้เครื่องมือล่าสุดที่ทรงพลังและชาญฉลาดที่สุด และกำลังมาแทนที่ระบบไอทีแบบเก่า

Search

Get in Touch

Get in Touch with Sangfor Team for Business Inquiry

Name
Email Address
Business Phone Number
Tell us about your project requirements

Related Articles

Cloud and Infrastructure

Top Cloud Managed Services Providers

Date : 10 Jan 2025
Read Now
Cloud and Infrastructure

เจาะลึกบริการคลาวด์ (Cloud Service) คืออะไร พร้อมรู้จัก Sangfor Cloud Platform

Date : 26 Dec 2024
Read Now
Cloud and Infrastructure

Best Zscaler Alternatives

Date : 16 Dec 2024
Read Now

See Other Product

SIER
EasyConnect-Thai
aStor
More Advanced VDI Features
Sangfor Application Delivery (AD) Product Series
VMware Replacement