ในยุคสมัยที่มิจฉาชีพมุ่งโจมตีองค์กรต่างๆ ผ่านทางไซเบอร์บ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากการขาดความรู้เรื่องภัยออนไลน์ การใช้นโยบายป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และตั้งด่านประการปกป้องระบบไอทีขององค์กรจึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การมี MDR (Managed Detection and Response) หรือ SOC (Security Operations Center) สามารถช่วยให้องค์กรลดความเสี่ยง และดำเนินการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ MDR (Managed Detection and Response) หรือ SOC (Security Operations Center) คืออะไรและมีความแตกต่างกันยังไง
MDR vs. SOC
MDR คือ บริการที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบทันที โดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญมาพร้อมกับเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ช่วยดูแลระบบขององค์กรคุณตลอด 24 ชั่วโมง เป็นบริการที่ป้องกันองค์กรของคุณให้ปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์แบบต่างๆ
SOC คือ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวังระบบไอทีขององค์กรโดยใช้ทั้งทีมงานมืออาชีพภายในร่วมกับเทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
หากดูแบบผิวเผินหลายคนอาจมองว่า MDR และ SOC มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่ในความจริงแล้วโซลูชันทั้งสองรูปแบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
MDR ต่างจาก SOC อย่างไร
Managed Detection and Response เหมาะกับองค์กรที่ต้องการใช้ความช่วยเหลือจากภายนอก โดยให้ผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม (Third-party) ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไปจนถึงการแก้ไขปัญหา โดยเน้นการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบครบวงจร และมีค้นหาภัยคุกคามแบบเชิงรุกมากกว่า (Proactive)
ส่วน Security Operation Center จะเหมาะกับองค์กรที่มีทรัพยากรบุคคลและทีมงานภายในที่พร้อมจะดูแล เฝ้าระวัง วิเคราะห์ภัยคุกคาม และตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (Respond) เอง โดยอาจเป็นทีมงานไอทีที่ทำงานภายในองค์กร แต่จะไม่เน้นเรื่องการตอบสนองเชิงรุก (Reactive) หรือแก้ไขปัญหาโดยตรงเหมือน MDR
นอกจากนี้แล้ว Security Operations Center และ Managed Detection and Response ยังมีความแตกต่างในแง่ของการบันทึกข้อมูล โดย MDR จะใช้ระบบตรวจจับและป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ (IDS Intrusion Detection System และ IPS Intrusion Prevention System) ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายชั้นเลเยอร์ของความปลอดภัย ในขณะที่ SOC ใช้เครื่องมือ SIEM (Security Information and Event Management) ในการตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่าย
ด้วยสาเหตุนี้ ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกวัน ทำให้ MDR มีความยืดหยุ่นกว่า ในแง่ที่องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้หลากหลาย เพราะการทำงานแบบ SOC (Security Operations Center) จะเพิ่มขีดการทำงานได้ยากกว่า เนื่องจากเป็นระบบที่พึ่งกระบวนการที่ใช้แรงงานคนภายใน และหากต้องมีการอัปเกรดระบบเทคโนโลยีก็จะมีค่าใช้จ่ายสูง สำหรับการอัปเกรดเพื่อใช้งานเพียงแค่องค์กรเดียว
MDR vs. SOC แบบไหนดีกว่ากัน?
จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบตายตัวว่า MDR หรือ SOC ดีกว่ากัน เนื่องจากทั้งสองระบบมีความแตกต่างกัน หากถามว่าโซลูชันแบบไหนที่เหมาะสมกว่ากันมากกว่า ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างและความต้องการขององค์กรมากกว่า โดยสามารถสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าระหว่าง MDR กับ SOC แบบไหนดีกว่า กล่าวคือ
MDR (Managed Detection and Response) เหมาะกับองค์กรแบบไหน
จุดเด่นของ MDR
- การใช้บริการ MDR คือองค์กรจะได้รับบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไปถึงการตอบสนองเชิงรุกและเชิงรับ และการแก้ไขปัญหาหน้างาน
- เหมาะสำหรับองค์กรที่ไม่มีบุคลากรหรือทีมภายในองค์กร ที่สามารถดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์
- องค์กรจะใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อลดความซับซ้อนในการทำงานและลดภาระของบุคลากรภายใน
รูปแบบอุตสาหกรรมและองค์กรที่เหมาะสมกับ MDR
- องค์กรที่เน้นความปลอดภัยขั้นสูงและต้องการความปลอดภัยตลอดเวลา เช่นอุตสาหกรรมที่มีฐานข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้า และมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์สูง
- ธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดกลาง (SMEs) ที่อาจจะไม่มีงบประมาณหรือทรัพยากรบุคคลภายในเพียงพอสำหรับการมีทีมSOC (Security Operations Center) ภายใน
- องค์กรที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญอย่างเช่น องค์กรทางการเงินหรืออีคอมเมิร์ซ ที่ถ้าเกิดการโจมตีทางไซเบอร์แล้วจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
SOC (Security Operations Center) เหมาะกับองค์กรแบบไหน
จุดเด่นของ SOC
- องค์กรสามารถควบคุมระบบและกระบวนการ SOC (Security Operations Center) ทั้งหมดได้เอง ตั้งแต่การออกแบบระบบไปจนถึงการจัดการแก้ไข
- องค์กรที่มีบุคลากรพร้อมเพื่อการใช้งานในรูปแบบ SOC คือจะทำให้องค์กรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกัน และแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างตอบโจทย์องค์กรมากที่สุด เนื่องจากบุคลากรภายในอาจจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขององค์กรที่ลึกซึ้งกว่า
- SOC (Security Operations Center) เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทรัพยากรบุคคลและทีมงานความปลอดภัยไซเบอร์ภายใน
รูปแบบอุตสาหกรรมและองค์กรที่เหมาะสมกับ SOC
- องค์กรที่มีระบบซับซ้อน เลยต้องการการเฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์แบบเฉพาะเจาะจง
- องค์กรที่ต้องการการควบคุมข้อมูลภายใน เช่นบริษัทที่เก็บข้อมูลความลับหรือข้อมูลของลูกค้าเป็นจำนวนมาก และไม่อยากให้ข้อมูลรั่วไหลไปยังมือที่สาม
- องค์กรขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรบุคคลและทีมงานภายในเพียงพอ เช่นบริษัทเทคโนโลยีหรือภาคฝ่ายของรัฐบาล
สรุปแล้ว หากต้องการใช้โซลูชันที่ครบวงจร หรือไม่มีทีมงานเฉพาะทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ภายในองค์กรก็ควรเลือกใช้ MDR แต่ถ้าองค์กรของคุณมีทรัพยากรบุคคลพร้อม และต้องการควบคุมระบบความปลอดภัยด้วยตัวเอง ก็สามารถเลือกใช้ SOC ได้
ทั้งนี้ องค์กรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยให้ครอบคลุมมากที่สุด อาจเลือกใช้ทั้ง MDR และ SOC ควบคู่กันไปพร้อมกันก็ทำได้เช่นกัน
รู้จักโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์จากอัจฉริยะจาก Sangfor
Sangfor นำเสนอระบบตรวจดูความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง Cyber Guardian ช่วยจัดการบริการตรวจจับและตอบโต้ภัยคุกคาม ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ากับข่าวกรองภัยคุกคามระดับโลก (Global Threat Intelligence) เพื่อตรวจจับและระบุภัยคุกคามที่ทั้งเคยเจอและไม่เคยเจอมาก่อน
อีกทั้ง Sangfor ยังให้บริการ Platform-X ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ล้ำสมัยซึ่งรวมการจัดการอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยและการวิเคราะห์ความปลอดภัยไว้ในอินเทอร์เฟซที่รวมเป็นหนึ่งเดียว ช่วยให้จัดการอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย นโยบายความปลอดภัย และการดำเนินการด้านความปลอดภัยได้อย่างสะดวกในที่เดียว
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โซลูชันความปลอดภัย จาก Sangfor ได้ที่ www.sangfor.com หรือติดต่อเราวันนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบริการด้านความปลอดภัยแบบองค์รวมสำหรับองค์กรของคุณ