เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในด้านจำนวนและความซับซ้อนในการโจมตี ทำให้ระบบการตรวจจับและการตอบสนองแบบดั้งเดิมซึ่งออกแบบมาเพื่อรับมือกับการโจมตีทั่วไปกำลังประสบปัญหาในการตามทันเทคนิคและกลวิธีขั้นสูงของอาชญากรทางไซเบอร์ สิ่งนี้เองทำให้องค์กรหลายแห่งหันมาใช้เทคโนโลยี Extended Detection and Response (XDR) ซึ่งเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Generative AI (GenAI) จะสามารถมอบโซลูชันอันทรงพลังในการรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สมัยใหม่

บทความนี้จะแสดงให้เห็นว่าการผสานกันระหว่าง XDR และ GenAI กำลังเปลี่ยนแปลงการทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างไร และองค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากการผสมผสานนี้เพื่อสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและชาญฉลาดยิ่งขึ้นได้อย่างไร

Unlocking XDR’s Full Potential with GenAI

เหตุผลที่ควรใช้ XDR: ก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิม

เมื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น มาตรการด้านความปลอดภัยก็ต้องพัฒนาให้ทันต่อสถานการณ์เช่นกัน แต่โซลูชันแบบดั้งเดิม เช่น ไฟร์วอลล์ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส และระบบบริหารจัดการตัวตนและการเข้าถึง (IAM) มักทำงานแยกกัน ซึ่งก่อให้เกิด ข้อมูลแบบแยกส่วน (data silos) ในแต่ละอุปกรณ์ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยนั้นขาดมุมมองภาพรวมและไม่สามารถเชื่อมโยงรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน จึงยากที่จะตรวจพบรูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อน

เทคโนโลยี Extended Detection and Response (XDR) วยแก้ปัญหานี้ด้วยการผสานรวมข้อมูลและความสามารถจากเครื่องมือรักษาความปลอดภัยหลายประเภท เช่น ไฟร์วอลล์ ระบบป้องกันที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (endpoint protection) เซนเซอร์ในระบบเครือข่าย และแพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคาม (Threat intelligence) เมื่อระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกัน XDR สามารถเชื่อมโยงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน ตัวอย่างเช่น อาจตรวจพบว่าการดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูไม่มีพิษภัยนั้นเชื่อมโยงกับทราฟฟิกเครือข่ายที่น่าสงสัยตาม Threat intelligence การมองเห็นที่เป็นหนึ่งเดียวนี้ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยเข้าใจ ห่วงโซ่การโจมตีและความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การผสานรวมของ XDR ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของความสามารถด้านการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ (response capabilities) ด้วยการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์ที่ทำให้เห็นถึงบริบทภาพรวมของเหตุการณ์ XDR สามารถ จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือน และแนะนำการตอบสนองที่เหมาะสม ระบบที่ผสานรวม เช่น ระบบตรวจจับและตอบสนองที่เครื่องคอมพิวเตอร์ (Endpoint Detection and Response) ไฟร์วอลล์ และ IAM จะช่วยกักกันอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี บล็อก IP ที่น่าสงสัย หรือรีเซ็ตรหัสผ่านที่ถูกขโมยได้โดยอัตโนมัติ การทำงานอัตโนมัตินี้ช่วยเร่งการกักกันภัยคุกคามและการฟื้นฟูระบบ ลดผลกระทบของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยลงอย่างมีนัยสำคัญ

วิธีที่ Generative AI ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ XDR

แพลตฟอร์ม XDR ได้ใช้โมเดล AI ขั้นสูง เช่น machine learning และ การวิเคราะห์พฤติกรรม (behavioral analytics) เพื่อตรวจจับทั้งภัยคุกคามที่รู้จักแล้วและไม่รู้จัก โมเดลเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในการตรวจจับความผิดปกติและกิจกรรมที่น่าสงสัยจากข้อมูลที่มีโครงสร้าง เช่น บันทึกระบบ (system logs) ทราฟฟิกเครือข่าย และพฤติกรรมของอุปกรณ์ปลายทาง (endpoint behaviors) อย่างไรก็ตาม การรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การโจมตีที่ใช้การปรับแต่งภาษา การหลบเลี่ยงตามบริบท หรือการซ่อนโค้ดอย่างซับซ้อน (เช่น ฟิชชิงที่สร้างโดย AI มัลแวร์ที่เปลี่ยนรูปร่างได้ หรือการโจมตีเว็บแอปพลิเคชันที่ซ่อน payload อันตราย) ยังเป็นจุดอ่อนของโมเดลแบบเดิมที่มีการใช้งานอยู่ ตรงนี้เองที่ Generative AI เข้ามาเสริม—ไม่ใช่การทดแทน แต่เป็น เทคโนโลยีเสริม ที่เพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ภาษาขั้นสูงและการตีความบริบทที่เกิดขึ้นนั้น ช่วยขยายขอบเขตการตรวจจับของเทคโนโลยี XDR ได้เป็นอย่างดี

Generative AI พัฒนาบนพื้นฐานของ Large Language Models (LLMs) สามารถประมวลผลและตีความข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างหรือมีโครงสร้างบางส่วนได้ เช่น อีเมล คำสั่ง SQL และบันทึกการสนทนา ความสามารถนี้ช่วยให้เข้าใจบริบทของการโจมตี จับสัญญาณบ่งชี้เล็ก ๆ น้อย ๆ และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างข้อมูลที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการตรวจจับการโจมตีขั้นสูงหลากหลายรูปแบบ

ตัวอย่างเช่น หากผู้โจมตีเข้าถึงบัญชีอีเมลของผู้ใช้และสร้างข้อความที่เลียนแบบสไตล์การสื่อสารของผู้ใช้นั้น AI แบบดั้งเดิมอาจไม่มองว่านี่เป็นเรื่องน่าสงสัย แต่ Generative AI สามารถตรวจจับความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในโทนคำพูด หรือลำดับเวลาของข้อความ รวมถึงการใช้กลยุทธที่ใช้ในการหลอกล่อผู้ใช้งาน (social engineering) เช่น การโน้มน้าวหรือการสร้างแรงกดดันได้ ทำให้สามารถแจ้งเตือนถึงอีเมลที่อาจดูเหมือนปกติแต่มีความเสี่ยงได้

ในทำนองเดียวกัน Generative AI สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างของคำสั่ง SQL ในแอปพลิเคชันเว็บ ตรวจจับการโจมตี SQL Injection ที่ถูกซ่อนไว้ หรือตรวจจับรูปแบบที่ผิดปกติในการเรียก API ที่ AI รุ่นเดิมอาจพลาดไป

ตามรายงาน IBM Cost of a Data Breach 2024 พบว่า องค์กรที่ใช้ AI และระบบอัตโนมัติอย่างเต็มที่เพื่อเสริมความปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่ายจากเหตุข้อมูลรั่วไหลได้เฉลี่ย 2.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับองค์กรที่ไม่ใช้ เทคโนโลยี AI-driven detection จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ยุคปัจจุบัน

วิธีที่ Generative AI เสริมศักยภาพของ XDR

  1. การตรวจจับภัยคุกคามที่ดีขึ้นด้วยการวิเคราะห์เชิงบริบท: Generative AI ช่วยให้ XDR เข้าใจภาษาและเจตนาของข้อความได้อย่างละเอียด ทำให้สามารถตรวจจับการโจมตีวิในรูปแบบ social engineering ที่ซับซ้อนได้ เช่น การโจมตีแบบฟิชชิงที่ใช้ภาษาปรับแต่งเพื่อเลียนแบบผู้ใช้ที่น่าเชื่อถือ เมื่อผสานความสามารถที่เกี่ยวกับการตรวจจับความผิดปกติที่มีอยู่เดิม XDR จะสามารถสร้างภาพรวมของภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นได้
  2. เร่งกระบวนการสืบสวนภัยคุกคามด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI: Generative AI ช่วยปรับปรุงกระบวนการสืบสวนหาเบาะแสของเหตุการณ์การโจมตีด้วยการสร้างสรุปและให้ข้อมูลเชิงบริบทที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์สำคัญจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยผู้ดูแลระบบไม่จำเป็นต้องรวบรวมบันทึก (logs) ด้วยตัวเอง แต่สามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก AI เพื่อตีความเหตุการณ์และขอบเขตของปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  3. การโต้ตอบเหตุการณ์ที่ง่ายขึ้นด้วยคำสั่งภาษาที่สามารถเข้าใจได้ง่าย: Generative AI ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยโต้ตอบกับแพลตฟอร์ม XDR ผ่านภาษาที่เข้าใจง่ายของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์สามารถถามว่า “เมื่อวานนี้มีกิจกรรมที่น่าสงสัยอะไรบ้าง?” และได้รับคำตอบที่กระชับและมีโครงสร้าง ทำให้การวิเคราะห์ภัยคุกคามง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น

Generative AI ช่วยเสริมความสามารถของ AI ที่มีอยู่เดิมด้วยการเพิ่มการวิเคราะห์เชิงบริบทและพฤติกรรม โดย AI แบบดั้งเดิมยังคงมีความสำคัญในการตรวจจับความผิดปกติทางเทคนิคและรูปแบบภัยคุกคามที่รู้จัก ขณะที่ Generative AI ช่วยให้ XDR ตีความการโต้ตอบที่ซับซ้อนและพฤติกรรมมนุษย์ที่ละเอียดอ่อนได้ ทั้งสองทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม XDR ที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทในการโจมตีมากขึ้น สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกโซลูชัน XDR + GenAI ที่เหมาะสม

ในขณะที่มีโซลูชัน XDR ให้เลือกมากมาย และบางโซลูชันเริ่มผสาน Generative AI (GenAI) เข้าไปด้วย คุณจะเลือกโซลูชันที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณได้อย่างไร? ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ ระดับการผสานรวม และ ความสามารถของ GenAI ที่นำเสนอ

  1. ความท้าทายด้านการผสานรวมกับ XDR -- แพลตฟอร์ม XDR หลายแห่งต้องพึ่งพาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยจากภายนอก เพราะผู้ให้บริการมักไม่มีชุดเทคโนโลยีของตนเองครบถ้วน เช่น บางรายอาจขาดไฟร์วอลล์ แพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคาม (Threat Intelligence Platform) หรือโมดูลด้านการประสานงานและการตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบอัตโนมัติ (SOAR) แม้การรวมเครื่องมือจากภายนอกจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ได้ แต่ก็มักนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ เช่น ความไม่สอดคล้องของรูปแบบข้อมูล แดชบอร์ดที่ต้องจัดการหลายชุด และ ความไม่ตรงกันของรอบการอัปเดตผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ เมื่อเครื่องมือรักษาความปลอดภัยต้องสื่อสารกันผ่าน API ที่เชื่อมต่ออย่างหลวม ๆ บริบทที่สำคัญอาจสูญหายหรือมีความล่าช้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการตรวจจับและตอบสนองแบบเรียลไทม์ลดลง
  2. ไม่ใช่ทุกโซลูชัน Generative AI จะมีคุณภาพเท่ากัน -- แม้การนำ Generative AI มาใช้จะช่วยยกระดับความสามารถของ XDR ได้อย่างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกโซลูชัน GenAI จะมีประสิทธิภาพเท่ากัน ประสิทธิผลของ GenAI ในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของโมเดลพื้นฐาน ความเข้ากันได้และการผสานรวมกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ รวมถึงความสามารถในการสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จริง (actionable insights) องค์กรควรประเมินว่า GenAI ตอบโจทย์ต่อภัยคุกคามของตนได้ดีเพียงใด และช่วยเพิ่มคุณค่าในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การโจมตีแบบฟิชชิง การโจมตีผ่านเว็บแอปพลิเคชัน และแคมเปญโจมตีหลายขั้นตอนหรือไม่

Sangfor XDR + Security GPT: ระบบป้องกันอัจฉริยะแบบครบวงจร

Sangfor XDR โดดเด่นด้วยชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยครบวงจรที่พัฒนาเอง รวมถึงไฟร์วอลล์ ระบบป้องกันที่อุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint Protection) เซนเซอร์ระบบเครือข่าย แพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคาม (Threat Intelligence) ระบบประสานงานและการตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบอัตโนมัติ SOAR ระบบรายงาน การหลอมรวมข้อมูลแบบ SIEM และระบบจัดการตั๋ว (Ticketing System) โซลูชันแบบครบวงจรนี้ให้การครอบคลุมทั่วทั้งสภาพแวดล้อมไอทีได้ทันที ลดความยุ่งยากในการรวมเครื่องมือจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน

Sangfor XDR ยังรองรับการผสานรวมกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยของบุคคลที่สามได้ ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนเดิมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดได้ และก็ยังมีข้อได้เปรียบจากแพลตฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียว การทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ดั้งเดิมของ Sangfor ช่วยให้องค์กรมั่นใจในความเข้ากันได้สูงสุด ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการผู้ให้บริการหลายราย

ส่วนประกอบสำคัญของแพลตฟอร์ม Sangfor XDR:

  • Endpoint Secure: แพลตฟอร์มป้องกันที่อุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint protection and response) ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลและดำเนินการตอบสนอง ได้รับการจัดอันดับเป็น “Top Product” โดย AV-TEST ด้วยคะแนนสูงสุดในด้านการป้องกัน ประสิทธิภาพ และความง่ายในการใช้งาน
  • STA/Cyber Command: เซนเซอร์เครือข่ายและแพลตฟอร์ม Network Detection and Response (NDR) ที่ใช้รวบรวมทราฟฟิกและวิเคราะห์ขั้นต้นก่อนส่งผลลัพธ์ไปยังแพลตฟอร์ม XDR

ส่วนประกอบเสริม:

  • Security GPT: ผู้ช่วย Generative AI ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม ทำให้การตอบสนองเป็นอัตโนมัติ และทำให้การสืบสวนง่ายขึ้น
  • Network Secure: Next Generation Firewall ที่ใช้รวบรวมข้อมูลเครือข่ายและการตอบสนองต่อเหตุการณ์ ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็น “Visionary” ใน Gartner Magic Quadrant และได้รับการแนะนำโดย CyberRatings.org สำหรับความสามารถในการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด
  • Internet Access Gateway (IAG): Secure Web Gateway (SWG) ที่ช่วยประสานรวมข้อมูลการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยระบุผู้ใช้หรืออุปกรณ์ที่มีความเสี่ยง

ความยืดหยุ่น:

  • รองรับโซลูชัน EDR/EPP และไฟร์วอลล์ของผู้ให้บริการเจ้าอื่นสำหรับการนำเข้าข้อมูลและดำเนินการตอบสนองต่อเหตุการณ์ และ ยังสามารถรองรับการผสานแบบปรับแต่งตามการประเมินของทีม Sangfor

สิ่งที่ทำให้ Security GPT โดดเด่น:

  • การวิเคราะห์แจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ: Security GPT ไม่เพียงสรุปการแจ้งเตือน แต่ยังตีความโดยอัตโนมัติพร้อมอธิบายสาเหตุเบื้องหลังของเหตุการณ์อย่างชัดเจน ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยเข้าใจว่า “ทำไม” ถึงมีการแจ้งเตือน ไม่ใช่แค่ “เกิดอะไรขึ้น” ซึ่งคู่แข่งหลายรายยังต้องอาศัยการวิเคราะห์ด้วยมือเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในระดับนี้ 
  • การกักกันภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ: หลังจากเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานในช่วงเวลาสั้น ๆ Security GPT สามารถดำเนินการกักกันภัยคุกคาม เช่น แยกอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี บล็อกโดเมนอันตราย หรือเพิกถอนข้อมูลรับรองที่ถูกขโมยโดยไม่ต้องรอขั้นตอนการดำเนินการด้วยมือเหมือนโซลูชัน AI อื่น ๆ 
  • การสื่อสารผ่านการสนทนาภาษาธรรมชาติ: Security GPT รองรับการสนทนาด้วยภาษาธรรมชาติ ทำให้นักวิเคราะห์สามารถถามคำถามเพิ่มเติม สำรวจสถานการณ์ และปรับการค้นหาได้อย่างโต้ตอบ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่เกินกว่าการค้นหาคำสั่งแบบทั่วไป  พร้อมทั้งแสดงข้อมูลเชิงกราฟิกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นแนวโน้ม รูปแบบ และข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายขึ้น 
  • การทำงานแบบบูรณาการ: ต่างจากโซลูชันที่แยกการตรวจจับและบริบทออกจากกัน Security GPT รวมกระบวนการสืบสวน ตรวจสอบ และตอบสนองไว้ใน WorkFlow เดียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำให้กับการดำเนินงานด้านความปลอดภัย 
  • Sangfor XDR + Security GPT มอบระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ช่วยให้การจัดการภัยคุกคามเป็นเรื่องง่ายและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ซับซ้อนในยุคปัจจุบัน 

 

ด้วยการผสานฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้ Sangfor XDR และ Security GPT ช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มอบแนวทางด้านความปลอดภัยเชิงรุกและอัจฉริยะให้กับองค์กร

เหตุผลที่ควรเลือก Sangfor XDR

ในการเลือกโซลูชัน XDR สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่สิ่งที่เครื่องมือสามารถทำได้ แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าโซลูชันนั้น ผสานรวมกับสภาพแวดล้อมปัจจุบันของคุณได้ดีเพียงใด และ สามารถขยายการใช้งานตามความต้องการขององค์กรได้หรือไม่ ชุดเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Sangfor มอบแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ด้วยพลังของ Security GPT คุณจะก้าวข้ามการตรวจจับและตอบสนองแบบเดิม ๆ ไปสู่กลยุทธ์การป้องกันที่ชาญฉลาดและเชิงรุก

พร้อมที่จะสัมผัสความแตกต่างแล้วหรือยัง? ติดต่อเราวันนี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมว่า Sangfor XDR และ Security GPT สามารถพลิกโฉมการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและช่วยให้องค์กรของคุณล้ำหน้าภัยคุกคามได้อย่างไร 

Search

Get in Touch

Get in Touch with Sangfor Team for Business Inquiry

Name
Email Address
Business Phone Number
Tell us about your project requirements

Related Articles

Cyber Security

Ransomware Attacks 2024: A Look Back at the Top Ransomware Headlines

Date : 19 Jan 2025
Read Now
Cyber Security

PowerSchool Breach: Student Information System Hack Exposes Data and Affects Dozens of Schools

Date : 15 Jan 2025
Read Now
Cyber Security

MDR ต่างกับ SOC อย่างไร? และองค์กรคุณควรใช้ MDR หรือ SOC

Date : 23 Dec 2024
Read Now

See Other Product

Platform-X
Sangfor Access Secure - โซลูชัน SASE
Sangfor SSL VPN
Best Darktrace Cyber Security Competitors and Alternatives in 2024
Sangfor Omni-Command
Sangfor Endpoint Secure แอนตี้ไวรัสยุคใหม่ (NGAV) สำหรับองค์กรของคุณ