โซลูชั่น Sangfor SSL VPN
โซลูชัน Sangfor SSL VPN รองรับการเข้าถึงเครือข่ายขององค์กรสำหรับผู้ใช้งานระยะไกล (Remote User) จากทุกพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ การเข้าถึงระยะไกลนี้ทำงานผ่านชั้นความปลอดภัยซ็อกเก็ต (Secure Socket Layer หรือ SSL) ที่เปิดใช้งานโดยเกตเวย์ SSL VPN โดยเกตเวย์ SSL VPN จะช่วยให้ผู้ใช้งานระยะไกลสามารถสร้างอุโมงค์เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network หรือ VPN) ที่ปลอดภัยผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โซลูชันที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรเว็บและแอปพลิเคชันที่ทำงานบนเว็บ (เช่น EasyConnect) ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ HTTP ผ่าน SSL (HTTPS) ที่รองรับโดยเบราว์เซอร์
Sangfor SSL Enterprise VPN มอบการเชื่อมต่อสำหรับการเข้าถึงระยะไกลจากแทบทุกสถานที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชัน ที่รองรับการเข้ารหัส SSL โดยคุณสมบัตินี้ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถขยายการเข้าถึงเครือข่ายองค์กรที่ปลอดภัยไปยังผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตทุกคน ด้วยการมอบการเชื่อมต่อแบบเข้าถึงระยะไกลไปยังทรัพยากรขององค์กร
ข้อดีของ SSL VPN Product
การป้องกันภัย
ผสานฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม ป้องกันการโจมตีจากไวรัส (Virus), เวิร์ม (Worms), สปายแวร์ (Spyware) และ แฮกเกอร์ (Hackers)
ลดค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนเดสก์ท็อป
เข้าถึงผ่านเว็บไวต์ได้ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ สามารถปรับแต่งการเข้าถึงได้ตามต้องการ
SSL VPN + IPsec VPN All-in-One
ใช้งานอุปกรณ์ SSL VPN และ IPsec VPN ไว้ด้วยกัน ลดความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอื่นๆ ช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนในการบริหารจัดการ
โซลูชันการปรับปรุงอย่างครอบคลุม
มอบการเข้าถึงที่ราบรื่น การส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะแม้แบนด์วิดท์จำกัด
ติดต่อกับพวกเรา
VPN คืออะไร
VPN ย่อมาจากคำว่า Virtual Private Network หรือก็คือ เครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือนจริง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อการทำงานจากระยะไกลหรือ Remote Work กลายเป็นเรื่องปกติ บริษัทและองค์กรต่างๆ จึงอนุญาตให้พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่สามารถเชื่อมต่อเข้ามาในเครือข่ายขององค์กรได้เสมือนนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ ได้ใช้เครือข่ายเดียวกันกับผู้ที่อยู่ในบริษัท และสามารถเข้าถึงศูนย์ข้อมูลต่างๆ ขององค์กรได้สะดวก
ข้อแตกต่างระหว่าง VPN และ SD-WAN
SD-WAN คือ การจัดการ WAN ที่ใช้หลักการ SDN (Software Defined Network) โดยมีจุดเด่นในการจัดการแบบรวมศูนย์ และรองรับการทำงานบนคลาวด์ (Cloud-native) พร้อมความสามารถในการขยายตัว โดยระบบสามารถกำหนดการจัดการทราฟฟิกตามนโยบายความปลอดภัย (Security Policy) และ QoS ที่องค์กรกำหนด
ส่วน VPN (Virtual Private Network) จะสร้าง Secure Tunnel หรืออุโมงค์ที่มีความปลอดภัยระหว่างจุดเชื่อมต่อสองจุด และใช้การเข้ารหัสข้อมูลที่รับส่งระหว่างกัน
การจัดการการรับส่งข้อมูล
SD-WAN นำเสนอความสามารถในการจัดการเส้นทางข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง MPLS, Internet Broadband และ LTE โดยสามารถเลือกเส้นทางตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วน VPN มีประสิทธิภาพในการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานหรือการทำงานระยะไกล
ประสิทธิภาพการทำงาน
ระบบ SD-WAN อย่าง Sangfor SD-WAN มาพร้อมฟังก์ชันขั้นสูง เช่น Dynamic Path Selection และ Application-aware Routing ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและการจัดการเครือข่าย ส่วน VPN มอบประสิทธิภาพที่เสถียรและน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการโซลูชันการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย
ด้านความปลอดภัย
ทั้ง SD-WAN และ VPN ต่างมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม โดย SD-WAN มักผสานรวมเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย เช่น Sangfor NGFW (Next-Generation Firewall), SASE (Secure Access Service Edge) และ CASB (Cloud Access Security Broker) ในขณะที่ VPN นำเสนอการเข้ารหัสข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เหมาะสำหรับการปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร
ต้นทุนและความคุ้มค่า
VPN เป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่า มีการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก และต้องการระบบที่ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง ส่วน SD-WAN นำเสนอฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบสำหรับจัดการเครือข่ายที่ซับซ้อนมากขึ้น
