โปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ (NGAV) ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเหนือโซลูชันโปรแกรมป้องกันไวรัส (AV) แบบดั้งเดิมโดยมอบการป้องกันที่ดียิ่งขึ้นต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ยุคใหม่ในรูปแบบต่างๆ
NGAV แตกต่างจาก AV ทั่วไปอย่างชัดเจน โดยใช้เทคนิคและเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ในทางกลับกัน AV ทั่วไปใช้การตรวจจับตามฐานข้อมูลมัลแวร์ที่รู้จัก
NGAV ทำงานอย่างไร
โปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ (NGAV) ทำงานโดยผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้การป้องกันที่ครอบคลุมต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่หลากหลาย ซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบเดิมที่อาศัยการตรวจจับตามฐานข้อมูลเป็นหลัก NGAV ใช้แนวทางเชิงรุก โดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ (Machine Learning) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของระบบ โดยระบุความผิดปกติที่บ่งชี้ถึงกิจกรรมที่เป็นอันตราย
การวิเคราะห์พฤติกรรมใช้เทคนิคฮิวริสติก (Heuristics) เพื่อตรวจจับรูปแบบที่น่าสงสัยภายในโค้ด นอกจากนี้ NGAV ยังใช้เทคโนโลยีแซนด์บอกซ์ โดยแยกไฟล์หรือกระบวนการที่น่าสงสัยในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ เพื่อสังเกตพฤติกรรมของไฟล์หรือกระบวนการเหล่านั้นโดยไม่กระทบต่อระบบหลัก
ข้อมูลภัยคุกคามแบบบูรณาการช่วยให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ NGAV สามารถปรับตัวและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน NGAV จึงให้การป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อภัยคุกคามทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก รวมถึงแรนซัมแวร์ มัลแวร์ และภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง (APT)
คุณสมบัติหลักของ NGAV
เครื่องมือตรวจจับและตอบสนองอุปกรณ์ปลายทาง (EDR): NGAV มักจะบูรณาการกับ ความสามารถ ของ EDR เพื่อให้การตรวจสอบและตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือ EDR รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอุปกรณ์ปลายทางเพื่อตรวจจับ วิเคราะห์และบรรเทาภัยคุกคาม
ข้อมูลภัยคุกคามบนคลาวด์: โซลูชัน NGAV ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลภัยคุกคามบนคลาวด์เพื่อให้ได้รับข้อมูลภัยคุกคามล่าสุดอยู่เสมอ ซึ่งช่วยให้สามารถอัปเดตข้อมูลได้แบบเรียลไทม์และตรวจจับมัลแวร์ชนิดใหม่ๆได้เร็วยิ่งขึ้น
การวิเคราะห์พฤติกรรม: โซลูชัน NGAV วิเคราะห์พฤติกรรมของแอปพลิเคชันและกระบวนการแบบเรียลไทม์เพื่อตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย แทนที่จะพึ่งพาการตรวจจับตามฐานข้อมูลเพียงอย่างเดียว โซลูชันจะมองหาความผิดปกติที่บ่งชี้ถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
การเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์: NGAV ใช้ขั้นตอนวิธีการเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์เพื่อปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีเหล่านี้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์ภัยคุกคามในอนาคต
การป้องกันแบบ Zero-Day เชิงรุก: NGAV ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีแซนด์บอกซ์ เพื่อคาดการณ์และต่อต้านภัยคุกคามที่เกิดขึ้น NGAV สามารถค้นหาและหยุดการโจมตีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยวิเคราะห์การทำงานของไฟล์และตรวจจับรูปแบบแปลกๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่จะเผชิญกับอันตรายที่ไม่รู้จักก่อนที่จะสร้างความเสียหายให้กับระบบ
โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิมเทียบกับ NGAV
คุณสมบัติ |
โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิม |
โปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ (NGAV) |
การตรวจจับภัยคุกคาม |
ตามลายเซ็น (อาศัยลายเซ็นมัลแวร์ในฐานข้อมูล) |
การวิเคราะห์ตามพฤติกรรม การเรียนรู้ของเครื่อง และเทคนิคฮิวริสติก (Heuristics) |
โฟกัสการปกป้อง |
การป้องกันส่วนใหญ่อยู่ที่ไฟล์ |
การโจมตีแบบใช้สคริปต์, แรนซัมแวร์, ภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง (APT) |
วิธีการป้องกัน |
การตอบสนอง (ตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ทราบ) |
เชิงรุก (คาดการณ์และป้องกันภัยคุกคาม) |
เทคโนโลยีที่ใช้ |
อัปเดตลายเซ็นในฐานข้อมูล |
การเรียนรู้ของเครื่อง ปัญญาประดิษฐ์ แซนด์บอกซ์ |
ความเร็ว |
เวลาตอบสนองช้าลงเนื่องจากการอัปเดตฐานข้อมูลที่มีมากขึ้น |
เวลาตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเนื่องจากการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ |
การวิเคราะห์ที่ผิดพลาด (False Positive) |
อัตราการเกิดผลบวกปลอมได้ง่าย เนื่องจากตรวจสอบจากฐานข้อมูลเป็นหลัก |
อัตราการตรวจพบบวกปลอมต่ำ โดยมีการวิเคราะห์จากระบวนการที่อาจเป็นภัยคุกคาม |
การรวมบูรณาการกับระบบคลาวด์ |
ใช้ร่วมระบบคลาวด์มีจำกัดหรือไม่มีเลย |
มักจะใช้ระบบคลาวด์เพื่อการอัปเดตที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและการจัดการแบบรวมศูนย์ |
เพราะอะไรโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิมจึงล้าสมัย?
ความสามารถในการตรวจจับที่จำกัด: โซลูชันป้องกันไวรัสแบบเดิมมักถูกจำกัดให้ตรวจจับได้เฉพาะภัยคุกคามที่ทราบเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การโจมตีแบบ Zero-day ได้ ความล่าช้าในการอัปเดตลายเซ็นอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่ออันตรายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหล่านี้
ขาดการป้องกันเชิงรุก: โปรแกรมป้องกันไวรัสเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การตรวจจับและลบมัลแวร์หลังจากเกิดการติดเชื้อ โปรแกรมเหล่านี้มีปัญหาในการรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อน เช่น แรนซัมแวร์ ฟิชชิ่ง และภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง (APT) ทำให้มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ประสิทธิภาพการทำงานของระบบลดลง: ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิมมีแนวโน้มที่จะใช้ทรัพยากรระบบจำนวนมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ภูมิทัศน์ภัยคุกคาม (Threat Landscape) ที่เปลี่ยนแปลงไป: เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โซลูชันแอนตี้ไวรัสแบบเดิมจึงประสบปัญหาในการตรวจจับการโจมตีขั้นสูงที่ทำงานในหน่วยความจำ(RAM) เพื่อหลีกเลี่ยงวิธีการตรวจจับตามไฟล์แบบดั้งเดิม
ประโยชน์ของ NGAV
การตรวจจับภัยคุกคามที่ได้รับการปรับปรุง: AV รุ่นใหม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก รวมถึงช่องโหว่แบบ Zero-day และภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง (APT)
การป้องกันแบบเรียลไทม์: การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและอัปเดตแบบเรียลไทม์ช่วยให้ตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที
การคุ้มครองอย่างครอบคลุม: NGAV ให้การป้องกันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์หลากหลายประเภท รวมถึงมัลแวร์ที่ใช้การโจมตีผ่านสคริปต์ แรนซัมแวร์ และภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง
ลดผลบวกปลอม: เทคนิคฮิวริสติกขั้นสูงและการเรียนรู้ของเครื่องช่วยลดผลบวกปลอม ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่า NGAV จะตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ
การปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมาย: ความสามารถในการบันทึกและการรายงานโดยละเอียดช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับการปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์
ความสามารถในการปรับขนาดและมีความยืดหยุ่น: สถาปัตยกรรมบนคลาวด์ช่วยให้โปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ปรับเพิ่ม-ลดขนาดได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการขององค์กรทุกขนาด
NGAV เทียบกับ EDR
คุณสมบัติ |
NGAV (แอนตี้ไวรัสรุ่นใหม่) |
EDR (การตรวจจับและตอบสนองอุปกรณ์ปลายทาง) |
จุดเด่น |
การป้องกันภัยคุกคาม |
การตรวจจับภัยคุกคาม การวิเคราะห์ และการตอบสนอง |
วิธีการตรวจจับ |
การวิเคราะห์พฤติกรรม การเรียนรู้ของเครื่องจักร และ AI |
การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและการวิเคราะห์ขั้นสูง |
ขอบเขตการคุ้มครอง |
มุ่งเน้นการป้องกันมัลแวร์และภัยคุกคามที่อุปกรณ์ปลายทาง |
ความปลอดภัยอุปกรณ์ปลายทางที่ครอบคลุมรวมถึงการตรวจจับ การวิเคราะห์ และการตอบสนอง |
ความซับซ้อนของการบริหารจัดการ |
โดยทั่วไปแล้วการจัดการและการใช้งานจะง่ายกว่า |
ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากขึ้นเพื่อจัดการและใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ |
ค่าใช้จ่าย |
โดยทั่วไปจะต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโซลูชัน EDR |
มักจะสูงกว่าเนื่องจากความสามารถขั้นสูงและความต้องการทรัพยากรที่มากขึ้น |
การตอบสนอง |
บล็อกภัยคุกคามหรือดำเนินการแก้ไขพื้นฐาน |
ตรวจสอบและตอบสนองได้ด้วยตนเอง |
เปลี่ยน NGAV ของคุณด้วย Sangfor Endpoint Secure
โซลูชันป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิมไม่สามารถต้านทานภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ แอนตี้ไวรัสรุ่นใหม่ (Next-Generation Antivirus) นำเสนอความก้าวหน้าครั้งสำคัญโดยมอบการป้องกันเชิงรุกต่อภัยคุกคามในวงกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้แต่โซลูชัน NGAV ก็ยัง มีประสิทธิภาพและมูลค่าที่แตกต่างกัน
Sangfor Endpoint Secure มีการพัฒนาจากโซลูชัน NGAV แบบดั้งเดิมด้วยการรวมเอาคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น ความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองอุปกรณ์ปลายทาง (EDR) แนวทางที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้องค์กรของคุณไม่เพียงแต่ป้องกันภัยคุกคามเท่านั้น แต่ยังตรวจจับ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ประโยชน์ของ Sangfor Endpoint Secure
การตรวจจับภัยคุกคามที่ได้รับการปรับปรุง: Sangfor Endpoint Secure ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อระบุภัยคุกคามทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
การป้องกันเชิงรุก: Sangfor Endpoint Secure ป้องกันภัยคุกคามเชิงรุกก่อนที่จะสร้างความเสียหายให้กับระบบของคุณ ช่วยปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของคุณ
ความปลอดภัยที่ครอบคลุม: ทีมงานดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์สามารถการปกป้องอุปกรณ์ปลายทางที่สมบูรณ์จากมัลแวร์ที่รู้จักและไม่รู้จัก แรนซัมแวร์ ช่องโหว่แบบ zero-day และภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง (APT)
การจัดการที่ง่ายดาย: การจัดการแบบรวมศูนย์และการใช้งานผ่านระบบคลาวด์สามารถช่วยให้การบริหารจัดการและการดูแลรักษาระบบได้ง่ายมากขึ้น
ลดต้นทุน: Sangfor Endpoint Secure นำเสนอโซลูชันคุ้มค่าที่มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sangfor Endpoint Secure และดูว่าเหตุใดจึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่าสำหรับความต้องการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรของคุณ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของเราหรือติดต่อเราทันที !
People Also Ask
NGAV is a smart cybersecurity tool. It uses traditional detection methods and combines them with behavior analysis, machine learning, and cloud intelligence. This helps it find and stop both known and unknown threats.
Next-Gen AV can detect and stop many threats. These include malware, ransomware, phishing, new exploits, fileless attacks, and advanced persistent threats (APTs).
Next-generation antivirus may be more expensive initially. However, its long-term benefits often make it a worthwhile investment. This is especially true when compared to traditional antivirus options. NGAV provides enhanced protection, reduces downtime, and can help prevent costly data breaches.